เทคนิค วิธีการเลือกบ้านใหม่

เทคนิค วิธีการเลือกบ้านใหม่ ก่อนจะตกลงซื้อขายอะไรแน่นอนว่าเราต้องศึกษาสินค้านั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียใจทีหลัง ‘บ้าน’ เองก็เช่นกัน ทั้งยังสำคัญมากสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะเราต้องอาศัยอยู่ที่นี้อีกนานจึงต้องทำให้แน่ใจก่อนว่าใช่จริง ๆ การที่เราจะเลือกที่บ้านมาเป็นของตัวเองสักหลัง เราเชื่อว่าทุกคนต้องศึกษาข้อมูลนั้นการเลือกซื้อมาพอสังเขป วันนี้ทางเราก็ยังมีวิธีการเลือกซื้อบ้านโครงการมาฝากน๊า

เทคนิค วิธีการเลือกบ้านใหม่ ที่หลายๆคนควรรู้ก่อนจะซื้อบ้าน

พอถึงวัยมีครอบครัวความนึกคิด และก็ความฝันก็ขยายขอบเขต จนถึงใหญ่ขึ้นเรื่อย เพราะเหตุว่าพวกเราทราบว่า เมื่อชีวิตไม่เคยหยุดเจริญ ความฝันย่อมไม่หยุดเติบโต ก็เลยไม่เคยหยุด ที่จะคิดให้ใหญ่ เพื่อคุณได้มีพื้นที่ที่มากพอเพียง ดีพอเพียง ใหญ่พอเพียงรองรับ การเจริญเติบโตของทุกความนึกคิด ทุกความฝัน ของทุกสมาชิกในบ้านไม่ว่าจะเป็นความคิดเล็กๆ แม้กระนั้นเต็มไปด้วยอิสระของลูกน้อย ความนึกคิดมีสไตล์ แบบอย่างของแม่บ้าน แบบใหม่หรือความนึกคิดใหญ่ๆ

10.เคล็ดลับ วิธีการเลือกบ้านใหม่

เทคนิค วิธีการเลือกบ้านใหม่

1.ทำเล ทำเล ทำเล

ทำเลที่ดีหมายถึง ทำเลที่เราสามารถเดินทางไป-มาได้สะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะ  บ้านจัดสรรภูเก็ต  ใกล้สาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ครบถ้วน คือตอบสนองปัจจัย 4 เราได้ อีกทั้งต้องสามารถมาถึงสถานพยาบาลได้รวดเร็วในยามเจ็บป่วย มีสถานศึกษาสำหรับบุตรหลาน มีตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย ที่สำคัญไม่ควรไกล จากสถานที่ทำงานมากเกินไป และถึงแม้จะไกลก็ขอให้ไกล แบบที่เส้นทางไปถึงอย่างสะดวก หรือมีเส้นทางลัดเลาะจะยิ่งดี

2.เงิน เงิน เงิน

เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องถัดมาที่ควรดู เพื่อพิจารณาราคาบ้านที่เหมาะสม กับเรา จากนั้นจึงมาดูทำเลที่ตั้งที่ เหมาะสมกับงบประมาณต่อ ก่อนซื้อบ้านจึงควร พิจารณาเรื่องเงินเก็บ รายได้ และค่าใช้จ่ายให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ซึ่งมีวิธีการประเมินเบื้องต้นคือ โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้นเราควรมีเงินเก็บประมาณ 20% ของราคาบ้าน (เงินดาวน์) หรืออย่างน้อยให้พิจารณาเบื้องต้นว่าเราสามารถผ่อนดาวน์ได้แน่ ๆ เสียก่อน

เทคนิค วิธีการเลือกบ้านใหม่

3.เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้

หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ซื้อบ้านไม่ได้บ้าน ซื้อคอนโด ไม่ได้คอนโด” เพราะผู้ประกอบการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากขาดเงินทุน สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ หรือยอดขายไม่ออกตามเป้า เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกซื้อบ้านจาก ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำมาอย่างยาวนาน มีประวัติหรือประสบการณ์ การสร้างให้เห็นชัดเจน แล้วเราก็ควรเข้าไปสำรวจเสียหน่อยว่าจริงแค่ไหนอย่างไร เพื่อมาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง

4.เลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโด จากผังโครงการให้รอบคอบ

ข้อนี้สำคัญไม่แพ้กัน คล้ายกับการเลือกทำเลที่ดี โดยเราต้องดูผังโครงการทั้งหมด แล้วดูความต้องการของเรา และคนในบ้านเป็นแบบไหน ชอบความสงบ ความครึกครื้น หรือความสะดวกแค่ไหนอย่างไร อาทิ ต้องการบ้านที่อยู่ด้านหน้าโครงการ บ้านติดสโมสร ติดสวน ติดสระว่ายน้ำ หรือบ้านในซอยตื้น ๆ เป็นต้น

ซึ่งแต่ละตำแหน่งบ้านมักมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เช่น บ้านบริเวณหน้าโครงการมักอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ทางเข้าออกหมู่บ้าน แต่มักจะพลุกพล่าน ส่วนบ้านติดสโมสร สวน หรือสระว่ายน้ำจะสะดวกในการใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ แต่มักขาดความเป็นส่วนตัว มีเสียงดังจากผู้ใช้บริการ บ้านที่อยู่ในซอยตื้น ๆ อาจได้เพื่อนบ้านน้อยหน่อย แต่สงบ รถเข้าออกน้อย เป็นต้น อาคารชุดก็เช่นเดียวกัน คือห้องติดลิฟต์ ติดบันไดหนีไฟ มักสร้างความอุ่นใจ ให้ผู้ซื้อในยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันอาจมีเสียงจากลิฟต์ หรือมีเพื่อนบ้านมายืนสูบบุรี่บริเวณทางหนีไฟบ่อย ๆ ก็ได้ จึงควรดูเลือกพวกนี้ประกอบการตัดสินใจด้วย  บ้านจัดสรร

ทำเลของบ้าน

5.เลือกทิศที่ตั้งของหน้าบ้าน หรือหน้าต่างห้องคอนโด

อันนี้เราจะดูตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นทิศทางฮวงจุ้ยอย่างที่หลายคนคิด นั่นคือ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกตอนเช้า แล้วตกทางฟากตะวันตกตอนเย็น ฉะนั้นใครที่อยากได้แดดตอนเช้าก็เลือกหน้าบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก หรือเยื้อง ๆ มาทางทิศเหนือก็ยังได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสาย และไม่อยากให้แดดมารบกวนตอนเช้า แนะนำให้เลือกทิศทางตรงกันข้ามคือ หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก หรือเยื้องไปทางทิศใต้ก็จะได้แดดเต็ม ๆ ในช่วงบ่ายถึงเย็นแทน

6.แบบบ้านควรตอบสนองการอยู่อาศัยที่ครบถ้วน

บ้าน ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี คือบ้านที่ผ่านการศึกษาวิเคราะห์ เรื่องการตอบสนองผู้อยู่อาศัยมาแล้ว และมักเป็นบ้านที่มีฟังก์ชั่นให้เลือก ดังนั้นก่อนเลือกซื้อบ้านเราต้องพิจารณาถึงจำนวนคนในครอบครัว อายุ เพศ วัย ประกอบกัน เช่นครอบครัวใหญ่ มีคนเยอะ ก็ควรเลือกบ้านที่มีห้องน้ำเพียงพอ, ครอบครัวเล็ก ห้องน้ำไม่ควรเยอะเกินไปพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำความสะอาดตามมา หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุควรเลือกบ้านที่มีการห้องนอนอยู่ชั้นล่าง เป็นต้น ที่สำคัญควรพิจารณาให้ครอบคลุมถึงพื้นที่จอดรถ ครัว พื้นที่ซักล้าง บวกกับในอนาคตถ้ามีการต่อเติมเกิดขึ้น บ้านหลังนี้ต้องไม่มีปัญหาพื้นที่ทรุดตัวหรือร้าวเกิดขึ้นตามมา บ้านเดี่ยว บ้านแฝด

7.อย่าลืมดูวัสดุก่อสร้าง และการตกแต่ง

ต่อเนื่องมาจากข้อด้านบน เพราะส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหามักจะเป็นเรื่องพื้น ผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ต่าง ๆ แตกต่างกัน หมายถึงการเลือกใช้สุขภัณฑ์แต่ละแบรนด์ย่อมมีคุณภาพ ดีไซน์ และราคาก็ต่างกันไปอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องสุขภัณฑ์จึงเป็นเรื่องที่เราเห็นและรับรู้ได้ชัดเจน

  • ในส่วนพื้นผนังที่มีหลายรูปแบบนั้น จุดนี้ควรดูให้ละเอียดเช่นกัน อาทิ อิฐมอญมีความทนทานสูง แข็งแรงปานกลาง-สูง กันร้อนได้ดี แต่มักอมความร้อนแล้วถ่ายเทเข้าบ้านตอนค่ำ ๆ ส่วนอิฐบล็อคไม่ค่อยแข็งแรง และมีความทนทานต่ำ แต่มีโพรงข้างในก็ทำให้ข้างในร้อนไม่มากเท่าอิฐมอญ และในส่วนอิฐมวลเบาจะมีความแข็งแรงน้อย-ปานกลาง ความทนทานปานกลาง ถ่ายเทความร้อนได้ยาก บ้านจึงไม่อมความร้อน หรือปัจจุบันที่มักนิยมใช้พื้น และผนังสำเร็จรูปแทน อันนี้ก็ถือว่าช่วยเรื่องความ สะดวกรวดเร็วในการก่อสร้าง ประกอบกับมีความแข็งแรงมากของระบบ Precast แต่ในทางกลับกันการทุบ การเจาะเพื่อการตกแต่ง และแก้ไขอาจทำได้ยากกว่าแบบอื่น
  • เรื่องการทาสีหรือวอลล์เปเปอร์ ภายในก็เป็นอีกเรื่องที่ควรดู ซึ่งมีความชอบส่วนตัว ความสะดวกและการดีไซน์ของแต่ละบ้านแตกต่างกัน หมายถึงการมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันนั่นเอง เช่น วอลล์เปเปอร์มักเนี๊ยบ เก็บรายละเอียดได้ดี พื้นผิวดูมีมิติ มี Texture มีอายุใช้งานน้อยกว่าการทาสี หลุดลอกภายหลัง ส่วนการทาสีส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาการเปรอะเปื้อนมากกว่า แต่ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีเรื่องสีเข้ามาช่วยแล้ว เราเลือกได้เลยว่าชอบแบบไหนอย่างไร

8.อย่าลืมต่อรอง


ใครว่า ซื้อบ้าน แล้วจะต่อรองราคาบ้านไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่มีราคาสูงอย่างบ้านใหม่หรือคอนโดใหม่ ยิ่งต้องต่อราคาก่อนซื้อเสมอ โดยเริ่มต้นดูราคามาตรฐาน Price List จากโครงการก่อน แล้วดูต่อว่าในตอนนั้นมีรายการโปรโมชันส่วนลดตามวาระโอกาสต่าง ๆ ให้สอบถามหรือไม่ ถ้าไม่มีก็สอบถามไปเลยว่ามีหรือเปล่า เราอยากได้ส่วนลดพิเศษที่บริษัทอาจลดให้เราได้เพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งอำนาจตัดสินใจจะอยู่ที่พนักงานขาย ผู้จัดการขาย ผู้จัดการโครงการ หรืออย่างน้อยตอนต่อรองเราอาจได้ของแถมแทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ หรือได้ค่าธรรมเนียมการโอนต่าง ๆ ก็ได้ แต่เรื่องนี้โครงการของบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์จะมีความยืดหยุ่นเรื่องการต่อรองมากกว่า

การซื้อบ้าน

9.ดูฮวงจุ้ย บ้าน คอนโด


สำหรับสายมูหรือผู้ชื่นชอบด้านโหราศาสตร์และเรื่องฮวงจุ้ยบ้านแล้ว ต้องศึกษาเรื่องปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกับฮวงจุ้ยให้ดี อาทิ การดูทิศทางบ้าน รูปทรงของบ้าน แบบแปลนบ้าน ตำแหน่งของห้องต่างๆ รวมไปถึงเรื่องสีสัน การจัดวางเข้าของ และวันเดือนปีเกิดของเจ้าของบ้านว่าแมทช์กันหรือเปล่าด้วย แต่เรื่องนี้เป็นความสบายใจส่วนบุคคล หากไม่ทำให้ใครเดือนร้อนแล้วเราสบายใจก็สามารถทำได้เลย ก็มีศาสตร์การดูฮวงจุ้ยตามแนววิทยาศาสตร์ อ้างอิงจากตรรกะความเป็นจริงมาแนะนำกัน ไปศึกษากันได้นะคะ

10.มั่นใจ ตัดสินใจ แล้วติดตาม

เมื่อทำตาม เคล็ดลับการซื้อบ้านใหม่ และคอนโดใหม่ทั้งหมดเรียบร้อย ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเราศึกษาเรื่องต่าง ๆ ที่ควรรู้ของ ‘บ้านใหม่’ มาแล้ว ทำขั้นตอนต่อไปได้เลยนั้นคือการจ่ายเงินจอง นัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ชำระเงินดาวน์เป็นงวด ๆ พร้อมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอจน กระทั่งสร้างเสร็จพร้อมโอน ข้อนี้สำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านนี้จะไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง แต่เราต้องตรวจสอบ ด้วยความละเอียดรอบคอบ สิ่งใดที่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็ให้แจ้งกับทางโครงการทันที เมื่อเขาแก้ไขเสร็จแล้วค่อยลงนามรับมอบ ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อ แล้วนัดวันโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป โดยเราอาจไปด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้ประกอบการจัดการแทนก็ได้