ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม

ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม 10 ไม้เลื้อยทำซุ้มบังแดด โตไวเลี้ยงดูได้อย่างง่ายดายให้ร่มเงา

ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม รวมไม้เลื้อยเลี้ยงง่ายดายโตไว สำหรับทำซุ้มบังแดด ไปดูกันว่ามีไม้เลื้อยจำพวกไหนบ้างที่เหมาะสมกับการปลูกทำซุ้มบังแดดให้ร่มเงากับตัวบ้านได้บ้าง

มาหาแนวทางคลายร้อนกล้วยๆที่จะทำให้บ้าน รวมทั้ง สวนของคุณงามขึ้นไปพร้อม ด้วย 10 ไม้เลื้อยที่เหมาะกับปลูกทำซุ้มบังแดด ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะให้ร่มเงากับบ้านของพวกเราแล้ว บ้าน ยังช่วยลดอุณหภูมิพื้นที่ด้านใน ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้กลิ่นหอมหวนสดชื่น แถมบางประเภทยังเก็บเกี่ยวมากินได้อีกด้วย ผลดีมากมาย และก็ คุณลักษณะครบขนาดนี้ หาไม้เลื้อยมาปลูกทำซุ้มในสวน สักซุ้มก็คงจะดีแบบเดียวกันครับผม

ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม

1. ต้นถั่วค้าง

ลักษณะทั่วไป : พืชไม้เลื้อยเชื้อสายถั่ว ที่ให้ร่มเงาด้วยใบกว้าง แล้วก็ใน 1 ช่อใบประกอบไปด้วย 3 ใบ ดอกมีสีอมม่วง และก็ มีฝักไว้ให้เก็บกิน

แนวทางปลูก : นำเมล็ดพันธุ์ที่ได้ไปแช่น้ำแล้วเลือกเม็ดที่จมรวมทั้งมีภาวะบริบูรณ์ไปปลูก ผสมดินร่วนซุยกับปุ๋ยธรรมชาติแล้วขุดหลุมหย่อนยานเม็ด ฝังกลบให้เป็นระเบียบ เมื่อต้นเริ่มขึ้นให้จัดแจงถอน ต้นที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป วิลล่าในป่าตอง ดูแลด้วยการรดน้ำให้เปียก แม้กระนั้นอย่าเฉอะแฉะเพียงแค่วันละ 1 ครั้งเพียงแค่นั้น ไม่เช่นนั้น จะก่อให้กำเนิดโรคราได้ นอกเหนือจากนั้นอย่าลืมควบคุมความชุ่มชื้นให้สมควรด้วย

2. ก้านคอนสรวงสวรรค์

ลักษณะทั่วไป : ก้านคอนสรวงสวรรค์ หรือ ดาวนายร้อย จัดเป็นไม้ล้มลุกที่แก่เพียงแค่ 1 ปี เมื่อมีดอกแล้วต้นก็จะอับเฉาไปเอง ใบมีลักษณะเป็นแฉกขนาดเล็ก เลื้อยพันกันเหมือนม่านโปร่งแสง Phuketผิวลำต้นสะอาด ดอกมีลักษณะเป็นช่อรูปดาว มีดอกตามง่าม ใบให้สีสันสวยสดงดงามทั้งยัง แดง ชมพู รวมทั้ง ขาว ส่งผลสีน้ำตาลเหมือนไข่ ตลอดทั้งต้น

แนวทางปลูก : นำเมล็ดพันธุ์ที่บริบูรณ์มาปลูก ลงในหลุมดินร่วนซุยไว้ตื้นๆทำหลักปักไว้ข้างๆ ตามทางที่จะทำซุ้มได้เลยนะครับ รักษาด้วยการ รดน้ำปานกลางอีกทั้งตอนเช้า แล้วก็ เย็น ปลูกเอาไว้ภายในที่ที่มีแดดด้วยเหตุว่าเป็นพืชที่ถูกใจแดดมากมาย

3. ต้นจันทร์แจ่มชัดฟ้า

ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม

ลักษณะทั่วไป : เป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีลำต้นอ่อน ใบเป็นรูปวงรีกว้าง 4-7 ซม. มีสีเขียวสดขอบมนสลับกันในก้าน มีดอกตลอดทั้งปี ดอกมีสีเหลืองสดเหมือนรูปแตร รวมทั้ง ขึ้นตามซอกใบ เจริญวัยเร็วข้างใน 2 เดือน เหมาะสมกับ กระบวนการทำซุ้มป้องกันแสงแดดในสวน หรือ จะตัดแต่งให้เป็นทรงพุ่มไม้ก็ยังได้

แนวทางปลูก : ให้เลือกใช้กรรมวิธีปักชำแล้วก็ตอนกิ่งลงในดินประเภทใดก็ได้ เพราะว่าเป็นพืชที่เลี้ยงง่ายดายไม่มีโรคและก็ศัตรูพืชที่ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้ปลูกภายในกระถาง ที่มีโครงเหล็กครอบไว้ เพื่อจัดแนวทางให้ต้นไม้เลื้อยขึ้นไปข้างบน เพื่อทำซุ้ม หรือ ม่านกันแดดที่ระเบียง รดน้ำปานกลาง เนื่องจากว่าไม่อยากความชุ่มชื้นมากเกินความจำเป็น

4. ต้นพวงแสด

ลักษณะทั่วไป : พวงแสดเป็นไม้เลื้อยที่มีเถาขนาดใหญ่ สามารถทนร้อน แล้วก็ แล้งได้อย่างดีเยี่ยม ผลิใบย่อยมีรูปร่างเป็นวงรีเหมือนไข่ ปลายใบแหลม แล้วก็ มีขนาดเล็ก ดอกมีสีส้มอมเหลือง ใน 1 ช่อดอก บ้านภูเก็ต จะมีดอกอยู่ราวๆ 10 ดอกขึ้นไป ปลายดอกม้วนงอสวยสดงดงาม มีดอกในฤดูหนาว

แนวทางปลูก : ให้นำกิ่งของพวงแสดมาปักชำลงในหลุมดินร่วนซุย ที่มีปุ๋ยธรรมชาติรองอยู่ข้างล่าง กว้างโดยประมาณ 60 ซม. ลึก 30 ซม. เอาดินกลบ รดน้ำให้เปียกแฉะ แต่ว่าอย่าเฉอะแฉะ ถูกใจแดดจ้า แม้กระนั้นเวลาใดที่ต้นเริ่มแข็งแรงก็ดี ชี้แนะให้ ละเว้นการรดน้ำลงมาบ้าง วันเว้นวันก็ยังดี ไม่มีเรื่องโรค และก็ แมลงมากมายวนดวงใจแถมยังเลี้ยงไม่ยากอีกต่างหาก

5. ต้นใบระบาด

ลักษณะทั่วไป : พืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่มีความเห็นว่ายิ่งเลี้ยงให้แตกใบได้มากมากแค่ไหน ทรัพย์สินก็จะไหลมาเทมามากมายแค่นั้น เมื่อเติบโตเต็มกำลังลำต้นจะแข็งแรง มีใบกว้างขนาด 12 ซม.ขึ้นไป ลักษณะก็จะคล้ายรูปหัวใจสีเขียวเข้ม ใต้ใบมีขน มีดอกเป็นช่อ ปลายดอกมีลักษณะเหมือนกระโถนปากแตร สีม่วง ส่งผลเล็กๆทรงกลมสีน้ำตาล

แนวทางปลูก : ก่อนลงมือปลูกใบระบาดเสนอแนะให้ทำโครงซุ้มจัดแจงรอคอยเอาไว้ได้เลย ปลูกด้วยแนวทางปักชำลงในหลุมดินที่ผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกขนาดลึก 30 ซม. รักษาด้วยการรดน้ำปานกลางวันแล้ววันเล่า ถูกใจแดดแรง ไม่ค่อยมีโรคแต่ว่าบางทีก็อาจจะจะต้องเผชิญกับปัญหาเพลี้ยบ้าง เพียงแค่ดูแลความสะอาดรอบๆต้นให้ดีก็พอเพียง

6. ต้นม่านเกาะบาหลี

ลักษณะทั่วไป : พืชจำพวกนี้จัดว่าเป็นไม้เลื้อยที่ มีรากอากาศแขวนลงมาเหมือนม่าน สามารถใช้รากบังแดด รวมทั้ง สร้างบรรยากาศในสวน ได้อย่างดีเยี่ยม ใบมีลักษณะคล้ายกับ รูปหัวใจปลายแหลม มีดอกเป็นช่อสีขาวอมเหลือง ม่าน หรือ รากของมัน จะมีสีชมพูในตอนแรกๆแต่ว่าเมื่อต้นเริ่มแข็งแรงสุดกำลังแล้ว รากก็จะกลายเป็นสีน้ำตาล เป็นไม้เลื้อยที่เจริญวัยเร็วมาก

แนวทางปลูก : ใช้กรรมวิธีการปักชำกิ่งใส่ลงไปภายในกระถางดินร่วนซุย ไม่นานรากใหม่ก็จะแตกออกมา เพื่อรอคอยเลื้อยขึ้นไปพันซุ้มที่ตระเตรียมไว้นั่นเอง รดน้ำเพียงแต่วันละ 1 ครั้ง หมั่นตัดแต่งราก รวมทั้ง ต้นให้อยู่ในเขตพื้นที่ที่พวกเรากำหนดไว้ ที่สำคัญ จำต้องไม่ปลดปล่อยให้รากยาวลงไปโดนน้ำที่พื้น ด้วยเหตุว่าจะก่อให้เน่าได้

ระแนงควรมีไม้เลื้อยไหม

7. ต้นลดาเถาวัลย์

ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้เลื้อยที่ไม่ผลัดใบ เหมาะสมกับบ้านที่ไม่ค่อยมีเวลา ชำระล้างเท่าไรนัก ใบมีสีเขียวเข้มรูปหัวใจขึ้นทับกันเป็นพุ่มไม้ครึ้ม มีดอกเป็นช่อสีขาวบานใหญ่เหมือนหิมะ ตามซอกใบไปทั่วอีกทั้งต้น ส่งกลิ่นหอมในตอนเวลาเช้า

แนวทางปลูก : การปักชำถือได้ว่าวิธีที่เยี่ยมสุด โดยเหตุนี้ ควรที่จะเลือกกิ่งที่มองแข็งแรงบริบูรณ์ ไม่อ่อน หรือ ไม่แก่จนถึงเกินความจำเป็น ปลูกเอาไว้ภายในหลุมดินร่วนซุย ลึกโดยประมาณ 30 ซม. รองตูดหลุมด้วยปุ๋ยคอก กลบดินแล้วรดน้ำ ให้เปียก และก็ เปลี่ยนแปลงมารดน้ำปานกลางวันละ 2 ครั้ง เป็นไม้เลื้อยที่ ถูกใจแดดจ้า แล้วก็ ไม่ค่อยพบเจอกับปัญหาเรื่องโรค แล้วก็ แมลงให้ยุ่งยาก

8. ต้นดอกฟุ้งกระจาย หรือ ดอกสลิด

ลักษณะทั่วไป : เป็นอีกหนึ่งผักสวนครัวชนิดไม้เลื้อยที่ พวกเราเลือกมาปลูกเพื่อ ทำซุ้มบังแดดได้ เถาเลื้อยมีสีเขียว ตอนแรกยังอ่อน รวมทั้ง เมื่อต้นเริ่มแก่เถาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นหัวใจกว้าง 5 ซม. แล้วก็ ยาวมากมายสุด ได้ถึง 11 ซม. ส่วนดอกนั้น จะออกเป็นช่อรวมกัน เป็นพวงตามซอกใบ ดอกมีสีเหลือง และก็ ส่งกลิ่นหอม เป็นวัตถุดิบที่ อยู่คู่คนประเทศไทยมานานมาก

แนวทางปลูก : ให้ใช้ขั้นตอนการปักชำโดยการนำกิ่งชำที่บริบูรณ์ มาฝังในดินร่วนซุยที่รองตูดหลุม ด้วยปุ๋ยคอก ความลึกหลุมราวๆ 30 ซม. กลบดิน รดน้ำวันแล้ววันเล่าให้เปียกแฉะ แม้กระนั้นอย่าเฉอะแฉะ แล้วก็ เมื่อผ่าน 2 อาทิตย์แรกรดน้ำ วันเว้นวันก็เพียงพอ แต่ว่าต้องระมัดระวังอย่าให้ มีน้ำขังรอบๆโคนต้นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น อาจจะมีการเกิดโรครากเน่า รวมทั้ง ปัญหาเพลี้ยไฟตามมา

8. ต้นดอกฟุ้งกระจาย หรือ ดอกสลิด

9. ต้นการเวก

ลักษณะทั่วไป : จัดว่าเป็นไม้เถาเลื้อยประเภทเดียวกับสายหยุด ที่มีขนาดใหญ่ ตามเถาจะมีมือยื่นออกมาเกาะพัน ใบมีสีเขียวเข้ม และก็ กว้าง-ยาว ออกสลับกันตามเถา เป็นพุ่มไม้หนาแน่น ดอกมีสีเหลือง มีกลีบ 3 กลีบ ลักษณะดอกจะแข็ง รวมทั้ง ส่งกลิ่นหอมในช่วงเวลาเย็นถึงเย็น เติบโตได้เร็วทันใจ ถ้าเกิดปลูกด้วยแนวทางตอนกิ่ง

แนวทางปลูก : ให้นำกิ่งในตอนที่บริบูรณ์รวมทั้งมีรากแตกหน่อ มาปลูกในหลุมดินร่วนซุยผสมทราย รองตูดหลุมด้วย ปุ๋ยธรรมชาติ กลบดิน แล้วก็ รดน้ำให้เปียกแม้กระนั้น อย่าเฉอะแฉะวันละ 2 ครั้ง อีกทั้งเช้าตรู่ แล้วก็ เย็นเพียงแค่ในทีแรกๆเพียงแค่นั้น เมื่อต้นเริ่มแข็งแรง ให้รดเพียงแค่วันละ 1 ครั้ง ในเช้าตรู่ เป็นพืชที่ไม่ค่อยมีเรื่องมีราวโรค และก็ แมลงให้จำเป็นต้องวิตกกังวล

10. ต้นเล็บมือนาง

ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้เถาเนื้อแข็งที่คู่รักสวน นิยมนำไปปลูกสูงที่สุด ประเภทหนึ่ง สามารถเลื้อยได้ไกล ถึง 10 เมตร ใบมีลักษณะเรียวยาว เหมือนรูปวงรี แตกใบออกตรงกันข้ามกันเป็นคู่ขนาน แน่นหนาช่วยป้องกันแดดได้ดิบได้ดี มีดอกเป็นช่อ ใน 1 ช่อ จะมีหลายดอก ถ้าหากดอกที่ยังอ่อน จะมีสีชมพู แต่ว่าถ้าเกิดเริ่มแก่ก็จะเป็นสีชมพูเข้มออกแดง ส่งกลิ่นหอมสดชื่น รวมทั้ง เจริญวัยเร็วทันใจ

แนวทางปลูก : ให้ปลูกด้วยแนวทางปักชำกิ่ง และก็ เอามาปลูกเอาไว้ภายในดินร่วนซุย รดน้ำให้เปียกแฉะในตอน แรกๆเพียงเท่านี้ ต้นก็จะเติบโตได้อย่างเร็ว เป็นพืชที่ไม่มีค่อยมีโรค แต่ว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเพลี้ยไฟให้มองเห็นบ้าง โดยเหตุนี้ จำเป็นต้องดูแลตัดแต่งพุ่มไม้ให้เกิดความสวยสดงดงาม และก็ กวาดเศษซากที่ตกให้สะอาดหมดจดก็พอเพียงนะครับ

แม้ใครกันแน่ที่กำลังมองหาไอเดียจัดสวนในบ้านอยู่ละก็ ทดลองเลือกพรรณไม้เลื้อยที่พวกเราเอามาเสนอกัน ในวันนี้ไปพินิจกันมองครับ เพราะว่านอกเหนือจากจะช่วยป้องกันแดดได้แล้ว แต่ละต้นยังมีคุณประโยชน์จำนวนมาก ในแบบที่พวกเรานึกไม่ถึงอีกต่างหาก